วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

8 ท่าไม้เด็ด เผด็จศึก


8 ท่าไม้เด็ด เผด็จศึก
8 ท่าไม้เด็ด ของคุณผู้ชายที่คุณสาว ๆ ควรรู้ไว้เพื่อรับมือ ส่วนคุณผู้ชายก็จะได้ทราบค่ะว่า ท่าไม้เด็ดของคุณนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อใช้ให้ถูกกาลเทศะและเพื่อให้สมานฉันท์
         เพราะชีวิตคู่ก็เหมือนลิ้นกับฟัน ที่คู่สามีภรรยาย่อมต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา และบนสังเวียนของการโต้เถียง ฝ่ายคุณผู้หญิงย่อมได้เปรียบ เพราะเป็นเพศที่มีความถนัดทางการใช้วาจาเป็นอาวุธ แต่ใช่ว่าคุณผู้ชายจะหมดทางสู้...เขาก็มีอาวุธลับ แม่ไม้ต่าง ๆ นานา มาโรมรันคุณได้เหมือนกัน
    แม่ไม้ที่ 1  ทำหูทวนลม
        เชื่อว่าพวกเราชาวดาวศุกร์คงเจอไม้นี้บ่อย ๆ เมื่อเราเอ่ยปากเรื่องความสัมพันธ์ที่กำลังทำท่าจะเป็นปัญหา เช่น "ชั้นว่ามีบางอย่างที่เราควรปรับปรุงให้ดีขึ้นนะ" สำหรับพวกดาวอังคารแล้ว คำพูดแบบนี้เท่ากับตอกย้ำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีข้อบกพร่อง และเหมือนการบอกเป็นนัย ๆ ว่าเราอยากจะหลุดพ้นวิถีชีวิตที่ทำให้เกิดความรู้สึกแย่ ๆ อย่างนี้เต็มทน

        หรือถ้าเราเง้างอดว่า "อะไรกัน? คุณให้ฉันทำไข่เจียวแค่เนี้ยเหรอ? นี่คุณกำลังหาว่าชั้นขี้เกียจ รึว่าทำอะไรไม่เป็นรึไง นี่รู้ไหม ฉันน่ะมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้คุณทานนะ แต่ที่สำคัญฉันงงมากที่คุณดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย คุณทำท่าเหมือนว่าอยากเลิกกับชั้นยังงั้นแหละ....” ไม่ว่าเราจะพยายามระบายความอัดอั้นตันใจแ ละต้องการให้เขาหันมาปรับความเข้าใจเพียงไร เขาก็ทำเหมือนกับว่าเราบ่นไปงั้น ๆ แล้วทำเป็นหูทวนลมเสีย
    แม่ไม้ที่ 2  ทำเป็นฉุน
        นี่คือกลยุทธ์ของผู้ชายที่ใช้มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ เวลาเข้าตาจนถูกคุณภรรยาซักไซร้ไล่เรียง เขามักจะชิงทำท่าโกรธเกรี้ยวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เป็นการปกป้องตัวเอง มิให้ฝ่ายหญิงตั้งรับทัน และเป็นการตัดบทปิดประเด็นที่เป็นความกันอยู่
    แม่ไม้ที่ 3  คิดเอาเอง
        "เฮ้อ! เหนื่อยเหลือเกิน" แค่คำพูดลอย ๆ ที่เราบ่นกับตัวเอง เพราะเหนื่อยจากการงานหรือจากการดูแลลูกเต้า ฝ่ายเขาพานเข้าใจไปเองว่าเราพูดกระทบ เขารู้สึกเกลียดเข้าไส้ แทนที่จะหันมาใส่ใจไถ่ถามด้วยความห่วงใย หรือรีบเข้ามาช่วยทำงาน กลับมาโกรธเราแล้วงอนตุ๊บป่องไปเลย
    แม่ไม้ที่ 4  เบี่ยงเบนประเด็น
        เมื่อเจอเรื่องที่รู้ตัวว่าไม่มีทางโต้แย้งได้แน่ ๆ คุณสามีก็มักจะมีแทคติกง่าย ๆ ในการตั้งรับสายตาจ้องจับผิดของภรรยา อย่างเช่น เมื่อถูกภรรยาต่อว่า "เมื่อคืนคุณดื่มไวน์มากไปหน่อยนะ แถมซดเบียร์อีก 3 ขวด" เขารู้ว่ายากจะปฏิเสธ (เพราะหลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่) จึงทำเป็นรีบยอมรับผิด และออกปากว่าจะไม่ประพฤติเช่นนั้นอีก แล้วหาเรื่องมาพูดกลบเกลื่อนบรรยากาศคุกรุ่น หรือเฉไฉไปเรื่องอื่น เช่น นี่ถ้าเป็นลุงผมนะ คุณไม่มีทางจับได้หรอก แฮะ ๆ
    แม่ไม้ที่ 5  ขอโทษไปงั้น ๆ
        การกล่าวคำ "ขอโทษ" หรือ "เสียใจ" ทำนองว่า "ผมขอโทษละกัน...ถ้าคุณเห็นว่าผมผิด" พ่อเจ้าประคุณอาจไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจจริง แต่เป็นการตบตาเพื่อยุติเรื่องราวชวนสยอง (ที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำมือภรรยา) หรือไม่ก็เป็นคำพูดประเภทว่า "เอาละ ผมยอมรับว่าคุณเป็นฝ่ายถูก ส่วนผมมันเป็นคนที่เฮงซวยที่สุดในโลก" (เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สุดเย้ยหยันประชดประชัน)
    แม่ไม้ที่ 6  ทำเป็นบูดบึ้ง
        แทนที่จะจับเข่าพูดคุยกันให้รู้เรื่องรู้ราว ว่ามีเรื่องใดไม่สบอารมณ์ คุณผู้ชายกลับชักสีหน้าบูดบึ้งขมึงทึงสัก 2-3 วัน เพื่อให้เรารู้สึกว่า "ผมเริ่มไม่สบอารมณ์" หรือ "ชักจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ" และถ้าเรายังเฉยอยู่ เขาก็จะงึมงำว่า "ผมว่าเราแยกกันอยู่สักพักจะดีกว่า"
    แม่ไม้ที่ 7  ทำเป็นอมทุกข์
        ถ้าการชักสีหน้ายังไม่บรรลุผล พ่อตัวดีของเราอาจแสร้งทำตัวอมทุกข์อย่างสาหัสใ ห้คุณสงสารจนต้องเป็นฝ่าย เข้าไปเอาใจ เช่น ก้มหน้าก้มตาทำงานเยี่ยงทาส ถึงเวลากินก็ไม่กิน หอบหมอนไปนอนตากยุงนอกห้อง เป็นต้น
    แม่ไม้ที่ 8  หันหลังให้แล้วเดินจากไป
        ด้วยวิธีที่ผ่านมาทั้งหมด ถ้าผู้ชายยังไม่สามารถเอาตัวรอด หรือเอาชนะผู้หญิงได้ เขาอาจใช้ไม้ตายนี้ เพราะรู้ดีว่าทักษะในการโต้ตอบด้วยวาจาไม่เก่งกาจเท่าผู้หญิง เขาคิดว่า "พูดไปก็เท่านั้น ยังไงซะคุณก็เป็นฝ่ายชนะเสมอ ไม่ใช่เพราะว่าคุณเป็นฝ่ายถูกหรอกนะ แต่ผมรู้ว่าผมเถียงสู้คุณไม่ได้" ที่สุดเลยใช้วิธีหันหลังให้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้เราอึ้ง ทึ่ง โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
ไม่ว่าจะมาไม้ไหน ผู้ชายร้อยทั้งร้อยย่อมม้วยมรณาด้วยคำพูดหวานหูด้วยกันทุกราย จำไว้นะพวกเรา
ที่มาจาก thaiza

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น